นี่แหละฉัน

รูปภาพของฉัน
Thailand
"ตัวฉัน คนอย่างตัวฉัน ใครจะมาสนใจ..." อิอิ.. รักเสียงเพลง บรรเลงตัวหนังสือ... ชอบอ่าน ชอบเขียน......
"หนังสือ" คือเพื่อนที่ปรารถนาดีที่สุด แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดนะ... เพราะในชีวิตยังมีเพื่อนดี ๆ ให้เจออีกเยอะ

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

ตอนที่ 18 เผ่าวิเพอรี่

 

 

          “งูยักษ์นากา”   ซายน์  แซนด์และเจย์ทวนคำงง ๆ  ก่อนที่จะมีคำต่อท้ายจากพี่ชายฝาแฝด “แล้วมัน
คืออะไรล่ะ”

          "งูยักษ์ในตำนาน”  ราฟาอธิบาย   “แต่ไม่มีใครเห็นมันมานานมากแล้ว  ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเป็นมันล่ะ”

          “ก็ .. ก็...  ไม่รู้สิ  ข้านึกไปถึงเรื่องที่ข้าได้ฟังมาเมื่อตอนเป็นเด็ก ว่าคนของเผ่าวิเพอรี่สามารถเรียกงูยักษ์
ที่ชื่อนากา ออกมาจัดการกับศัตรูได้นี่นา  แล้วนี่... นี่ก็เป็นอาณาเขตของพวกเขา  แถมเรา...เรายังบุกรุกเข้ามา
แบบนี้ ไม่ให้ข้าคิดได้ยังไงล่ะ”

          “แล้วทำไมไม่เล่าให้ฟังตั้งแต่แรก”  แซนด์งึมงำด้วยน้ำเสียงดุ ๆ

          “ก็...ก็... ข้าไม่นึกว่ามันจะมีจริงนี่นา  ยายเล่าให้ข้าฟังตั้งแต่เด็ก ๆ ข้าก็นึกว่าเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กธรรมดา”

          “อย่าเถียงกันเลย  มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่โฟร์ทคิดก็ได้”  เจย์ช่วยไกล่เกลี่ย

          “เสียงมันใกล้เข้ามาแล้ว ระวังตัวกันไว้ให้ดี”  ราฟาเตือน

         “ท่านคิดว่าใช่มันรึเปล่า”  ซายน์ส่งกระแสจิตถาม  เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นตื่นตระหนก และเธอก็มั่นใจ
ว่าขณะนี้ทั้งแซนด์และเจย์ คงไม่มีสมาธิพอที่จะรับฟังกระแสจิตของเธอกับราฟาได้

         “ข้ากลัวว่าจะเป็นเช่นนั้น  หากใช่มันเราเจองานหนักแน่”

          “กรี๊ด!!~~” เสียงกรีดร้องของโฟร์ทที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาทำเอาทั้งสี่พากันสะดุ้ง  “ใช่มัน ใช่มันแน่ ๆ เลย
กลิ่นสาป พวกท่านได้กลิ่นมั้ย กลิ่นสาปของสัตว์โบราณ  ข้ากลัว  ข้ากลัว”

         อาการตัวสั่นเป็นลูกนกของโฟร์ททำให้คนอื่น ๆ พลอยวิตกไปด้วย และเพิ่งจะนึกได้ว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิง
ธรรมดาไม่ใช่ผู้ใช้เวทได้อย่างคนอื่น ๆ  ซายน์ให้โฟร์ทเข้าไปยืนตรงกลางโดยมีทั้งสี่ยืนล้อมป้องกันไว้ แต่
เหมือนว่าเธอจะสติแตกไม่สนใจคนรอบข้างแล้ว  ได้แต่นั่งยอง ๆ ก้มหน้าซุกฝ่ามือร้องไห้ พร้อมพร่ำร่ำพันแต่คำว่า
“ตายแน่  ต้องตายแน่ ๆ “

          เสียงสวบสาบเหมือนของหนัก ๆ ที่กำลังเคลื่อนที่หยุดเงียบไป  แต่นั่นก็เป็นสัญญาณให้ทั้งสี่รู้ว่าการต่อสู้
จะเริ่มในบัดนี้แล้ว  แต่ที่น่าหนักใจคือ  ทุกคนยังไม่รู้เลยว่าคู่ต่อสู้มีหน้าตาเป็นเช่นไร

          และแทบไม่ต้องรอนาน  เมื่ออยู่ ๆ ก็มีเงาสีดำขนาดใหญ่ชูตระหง่านขึ้นมาตรงหน้าซายน์ในระยะที่ห่างออกไป
เพียงไม่กี่ก้าว  หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้นทันทีเมื่อเห็นเต็ม ๆ ตาว่าเงาดำตรงหน้า คือ  งูตัวใหญ่ที่กำลังชูคอ
อ้าปากอวดเขี้ยวขนาดใหญ่เกือบ ๆ เท่าแขนของเธอ

          “อย่ามองตามัน”  ราฟาตะโกนบอกทุกคน  “โฟร์ท หยุดร้องแล้วตั้งสติให้ดี  หากยังคร่ำครวญอยู่อย่างนี้ 
ได้ตายจริง ๆ แน่”  น้ำเสียงของเขาดุดันและจริงจัง จนทำให้คนที่กำลังร่ำร้องหยุดเงียบลงได้ แต่มันก็สงบลง
เพียงครู่เดียวก่อนที่จะมีเสียงแผดกลับมาด้วยความฉุนเฉียว

          “พวกเจ้าใช้เวทป้องกันตัวเองได้นี่ แล้วข้าละ ข้าจะทำยังไง ให้ข้าทำยังไง”

          “โฟร์ท ไม่ต้องกลัวนะ  พวกเราจะปกป้องเธอเอง”  ซายน์ปลอบ

          “ช่วยตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ”  โฟร์ทตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาร้องไห้ต่อไป แต่ก็ไม่มีใคร
โกรธหรือไม่พอใจเธอเลย เพราะเข้าใจดีว่าอารมณ์ของโฟร์ทตอนนี้เป็นเช่นไร

*********************************


           “ไม่แปลกใจหรอ  ทำไมมันถึงไม่โจมตีเรา” 
เจย์ส่งกระแสจิตถามทุกคนหลังจากตั้งหลักเพื่อรับมืองูยักษ์
อยู่ครู่ใหญ่ ๆ  แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          “ข้าว่าคนของร็องดอร์คงมาถึงที่นี่แล้ว  และคงจัดขบวนนี่มาต้อนรับพวกเราโดยเฉพาะ”  ราฟากล่าวเรียบ ๆ

          “แปะ  แปะ  แปะ”  เสียงปรบมือดังขึ้นมาก่อนที่จะปรากฏร่างเป็นเงาดำราง ๆ อยู่ภายใต้เงามืดของงูยักษ์

         “โธ่ ๆ ฉลาดดีนี่  ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนของเผ่าวิเพอรี่” ชายศีรษะล้าน ผู้เป็นหัวหน้าเผ่า ก้าวออกมาข้างหน้า
กล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่แฝงความมาดร้ายอย่างเห็นได้ชัด

          “แล้วคณะที่เหลือของท่านจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเช่นนั้น ไม่คิดจะเปิดเผยโฉมหน้าให้เห็นกันหน่อยหรือ”
ราฟาถามอย่างสงบ

         “เรารอพวกเจ้ามาหลายวันแล้ว  ชมนกชมไม้เพลินไปหน่อยนะ ถึงได้มาช้าซะขนาดนี้”  เสียงทุ้ม ๆ เอ่ยขึ้น
ก่อนที่เจ้าของเสียงจะก้าวออกจากเงามืดปรากฏตัว

          “เคลอิ”  เสียงอุทานจากปากของราฟา  ก่อนจะปรับน้ำเสียงแล้วเอ่ยต่ออย่างปกติ  “ไม่คิดเลยว่าจะได้รับ
เกียรติจากธรณีเทพ มาต้อนรับถึงที่นี่”

         “ธรณีเทพ??”  เสียงทวนคำงง ๆ จากทั้งสามคนที่เหลือ  ก่อนที่ซายน์จะสังเกตเห็นว่าโฟร์ทหยุดร้องและ
ยืนขึ้นมามองภาพตรงหน้าแล้ว  เธอเดินเข้ามายืนเคียงข้างโฟร์ท  ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนและกุมมือเอาไว้เพื่อให้อุ่นใจ

          “เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้นะหรือ ที่จะเป็นผู้กอบกู้เฮเวนน่า”  ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของนามเคลอิกล่าวด้วย
เสียงทุ้มต่ำเมื่อสังเกตเห็นรูปปรากฏบนหลังมือซ้ายของซายน์  “ช่างน่าเหลือเชื่อสิ้นดี”

          “เป็นข้าแล้วแปลกตรงไหน”  ซายน์หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เมื่อรู้สึกว่าคำพูดนั้นเหมือนจะเยาะเย้ย
“แล้วข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่า ผู้หญิงอย่างข้านี่แหละ ที่จะทำให้พวกเจ้าต้องปราชัย”

          “ฮึ..ฮึ..ฮึ...  ปากเก่งซะด้วย”

         “เคลอิ  จัดการพวกมันซะที  จะได้รีบ ๆ กลับ”  เสียงแหบ ๆ ของครูเอลเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ

          “อยากกลับก็กลับซิ ... ไป”  พูดจบเคลอิก็หันหลังกลับ  ทำเอาชายร่างเล็กยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างมึนงง

         “แล้ว... แล้ว จะไม่จัดการพวกมันก่อนหรือไง”

         เคลอิหยุดเดิน  เหลียวหน้ากลับมายิ้มนิด ๆ  “ข้าแค่รอดูหน้าเจ้าเด็กนั่น แล้วตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว ส่วนที่เหลือ
ให้เป็นหน้าที่ของคนที่นี่เถอะ ถ้าเจ้ายังไม่อยากกลับ จะอยู่ช่วยก่อนก็ได้นะ  ข้าจะเรียนท่านร็องดอร์ให้เอง 
ไปไซเทรน”  ประโยคสุดท้าย เขาหันไปพูดกับอีกร่างที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ในเงามืดนั้น  ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่ใยดี

*********************************


          “ดีวา~ วีเพอ~ แอ็ซซอล~ อิมิ~ ออ~”
  เสียงยาน ๆ กับภาษาแปลก ๆ ดังขึ้นจากปากของชายศีรษะล้าน
หัวหน้าเผ่าวิเพอรี่  สิ้นเสียงสุดท้าย งูยักษ์นามนากาเริ่มเคลื่อนตัว ลดคอที่ชูขึ้นกลับลงมาซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า
อีกครั้ง

          “ระวังนะ  คราวนี้ของจริงแล้ว”  ราฟาตะโกน

         เพียงแค่สิ้นเสียงของราฟา หัวงูยักษ์ก็พุ่งฉกเข้ามากลางวง ทำเอาแต่ละคนกระโจนหนีไปคนละทิศคนละทาง
ซายน์คว้ามือโฟร์ทกลิ้งหลบไปอย่างเฉียดฉิว  แต่ยังไม่ทันตั้งตัวได้ นากาหันหัวกลับมาอ้าปากให้เห็นเขี้ยวขนาดใหญ่
และน้ำลายเหนียวเต็มปาก

          “กรี๊ด!!~”   โฟร์ทหวีดสุดเสียงก่อนจะเป็นลมสลบไป

          ซายน์รีบออกวิ่งเพื่อดึงความสนใจเจ้านากาให้ตามเธอไปแทนที่จะพุ่งเข้าใส่โฟร์ทซึ่งนอนสลบอยู่ในพงหญ้า
และได้ผลเมื่อมันจับความเคลื่อนไหวและพุ่งตามไป

          “เว็บบี้ทัฟ”  ราฟาใช้เวททำให้เกิดใยสานเป็นตารางหมากรุกขนาดใหญ่กั้นระหว่างซายน์และงูยักษ์ไว้
เมื่อนากาพุ่งหัวตามซายน์มา  ทำให้มันติดอยู่ในใยเหนียว ๆ นั่น  แต่แล้วมันก็หลุดออกมาได้ง่าย ๆ เพียงแค่พ่น
น้ำลายออกมาละลายใยเหนียว ๆ ให้ละลายหายไป

         “โห..น้ำลายมันเป็นพิษขนาดเอาชนะใยเวทของราฟาได้เลยหรือนี่”  แซนด์กล่าวอย่างทึ่ง ๆ

          “นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมนะแซนด์” เจย์เตือนสติ  “หาวิธีจัดการมันให้ได้เถอะ”

          “เอ็กกาสโซด”  ราฟาเรียกดาบแก้วเจียระไนประจำตัวขึ้นมา  และวิ่งเข้าไปต่อสู้กับนากาเพื่อปล่อยให้
ซายน์หนีออกมารวมกลุ่มกับเจย์และแซนด์

          “พวกพี่ทำอะไรสักอย่างซิ  ยืนมองอยู่ได้  ราฟาเค้าต้านไว้ไม่ได้นานหรอกนะ”  ซายน์กระวีกระวาด

          “ขนาดราฟายังทำอะไรไม่ได้เลย  แล้วพวกเราจะเอาอะไรไปสู้ล่ะ”  พี่ชายฝาแฝดกล่าวแบบปลง ๆ

          “แล้วมันดีกว่ายืนอยู่เฉย ๆ แบบนี้มั้ยล่ะ”

          “ไม่สู้ก็ตาย   ลองดูสักตั้งเผื่อมีทางรอด”  เจย์เอ่ย  ก่อนจะเดินเข้าไปสู่สนามรบย่อม ๆ

          แซนด์กับซายน์มองหน้ากันก่อนจะพากันเดินตามเจย์ไป  ขณะนี้ทั้งสามไปยืนอยู่ข้าง ๆ ราฟาที่กำลัง
พักเหนื่อยจากการฟาดฟันกับนากา  โดยที่มันกำลังสะบัดหัวไปมาเพื่อพยายามสะบัดเชือกที่พันธนาการปากมัน
จากเวท “ไบน์โรฟ”   ออก

          “คงมัดมันได้แค่ครู่เดียว  คมดาบก็ทำอะไรมันไม่ได้มาก  หนังมันเหนียวมาก”  ราฟาเช็ดเหงื่อพลางอธิบาย
ไปพลาง  “อ้อ...เลือดของมันก็เป็นพิษด้วย ระวังอย่าได้โดนเข้าเชียว”

         “แล้วตาของมัน”  เจย์ยังติดใจสงสัย

         “หากพวกท่านจ้องมองตามันตรง ๆ ก็จะกลายเป็นหิน  และเท่าที่ข้ารู้มายังไม่มีวิธีทางแก้”

          “ถ้าเช่นนั้นข้าว่าเราเล่นงานตาของมันก่อนดีกว่า”  แซนด์รีบเสนอ  เพราะกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนแรกในกลุ่ม
ที่จะกลายเป็นหินไป

          “เท่าที่ข้าคิดได้ตอนนี้ คงต้องให้ท่านใช้ดาบแทงที่ตาของมัน”  เจย์หันไปบอกราฟา

         “แล้วจะให้เขาขึ้นไปถึงหัวมันได้ยังไงล่ะพี่เจย์”  ซายน์เอ่ยถาม

         โซวิน” เจย์ร่ายเวทเบา ๆ  แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ ตัวราฟาที่กำลังลอยขึ้นจากพื้นช้า ๆ “แบบนี้คงส่งท่านขึ้น
ไปถึงหัวของมันได้นะ”

         ราฟาตวัดสายตามองหน้าเจย์อย่างแปลกใจแกมสงสัย  แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา  ก่อนจะพยักหน้าให้เจย์
เพื่อตอบตกลง  เพียงครู่เดียวร่างของเขาที่เหมือนมีลมคอยพยุงตัวก็ลอยขึ้นสูงจนถึงระดับสายตาของนากา  
และนั่นก็ทำให้มันเลิกสนใจเชือกที่รัดปากมันอยู่ หันกลับมาสนใจผู้มาเยือนแทน

          “พี่เจย์  ทำอะไรสักอย่างซิ  เห็นมั้ยมันหันมาเล่นงานราฟาแล้ว”  ซายน์ตะโกนโหวกเหวก  เมื่อนากาพยายาม
พุ่งชนชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินที่กำลังโยกตัวหลบไปมา

          “เรนสตอม” หลังเจย์ร่ายเวทจบก่อให้เกิดพายุฝนเทลงมาอย่างหนัก   “หวังว่ามันคงช่วยบังตัวท่านให้
เข้าไปใกล้มันได้ยิ่งขึ้น”
   เจย์ส่งกระแสจิตบอกราฟา

         แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้  เมื่องูยักษ์นากาไม่ได้รู้สึกเดือนร้อนกับพายุฝนที่กำลังสาดเทลงมา
แม้แต่นิดเดียว มันยังคงใช้หัวพุ่งเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ตรงหน้าอย่างหนัก   แต่คนที่กำลังแย่จากเวทนี้ก็คือตัวราฟาเอง
เพราะนอกจากต้องคอยหลบและหาโอกาสใช้ดาบฟาดฟันมันแล้ว ยังต้องพยายามทรงตัวจากลมแรงของพายุด้วย
เมื่อเจย์เห็นว่าเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ก็เลิกใช้เวทนั้นไป

          “คัมเพียร์” แซนด์เรียกดาบขึ้นมากระชับไว้ในมือ ก่อนจะวิ่งเข้าไปฟันใส่ลำตัวของนากาที่อยู่บนพื้น
ตรงหน้าเพื่อหวังให้มันกลับมาสนใจเขาแทนราฟา  แต่ดาบของเขาก็ไม่ระคายผิวหนา ๆ ของเจ้างูยักษ์เลย

          “ไลน์นิ่ง ซรีค” สิ้นเสียงเจย์  เกิดสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาที่หัวของนากา  จนเชือกที่พันธนาการสลายไป
ทันที   แซนด์และซายน์อ้าปากค้างก่อนที่พี่ชายฝาแฝดจะหันไปทำตาโตใส่เจ้าของเวทเหมือนจะประณามนิด ๆ
ว่าทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่มากไปกว่าเดิม

          “มันกลัว  มันกลัวสายฟ้าของพี่เจย์”  เสียงตะโกนของซายน์  ทำให้พี่ชายรีบหันกลับไปดูก็พบว่า เจ้าคู่ต่อสู้
ตัวใหญ่ลดหัวลงมองพื้นพร้อมส่ายหัวไปมาเหมือนจะเจ็บปวดกับการโดนสายฟ้าที่ผ่าลงมาเมื่อสักครู่

         “จัดการมันเลยเจย์  เอามันให้หมอบเลย”  แซนด์ตะโกนเสียงดัง เหมือนผู้กำลังกำชัยชนะ

         เจย์ไม่รอช้า  ใช้โอกาสนี้กระหน่ำเวทสายฟ้าเข้าใส่นากา  จนมันพยายามเลื้อยหลบแต่ก็ยังไม่หนีไปไหน 
มันยังคงเลื้อยเป็นวงกลมล้อมรอบทุกคนไว้  ราฟาที่ตอนนี้กลับมายืนรวมกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับศัตรูที่
กำลังขดเลื้อยไปมาสักเท่าไหร่  กลับเปลี่ยนมาสนใจผู้ใช้เวทตรงหน้าแทน  ซายน์รีบวิ่งเข้าไปหาโฟร์ทที่ฟื้นจาก
การสลบขึ้นมานั่งนิ่งตัวแข็งเพราะยังมีอาการช็อคอยู่   เธอพยายามทั้งฉุด ทั้งกระชากลากถู ร่างแข็ง ๆ นั้นให้ลุกขึ้น
และก้าวตามเธอมา

          “ดีวา~ วีเพอ~  ไฟท์~ คอนตี้~”  เสียงยาน ๆ ดังขึ้นเหมือนจะพยายามปลุกกระตุ้นให้เจ้างูยักษ์หันกลับมา
ต่อสู้อีกครั้ง  และก็เป็นไปตามคาด เมื่อเจ้านากาชูคอขึ้นสูงพร้อมส่งเสียงขู่ฟ่อเหมือนกำลังโกรธ

         “ราชินีน้อยพาโฟร์ทหลบไป”   เสียงราฟาตะโกนก่อนจะเข้าไปสู่สนามรบระหว่างคนกับสัตว์ขนาดใหญ่
อีกครั้ง  แต่ครั้งนี้มีเจย์ที่เริ่มเชื่อมั่นในเวทของตัวเองมาช่วยเพิ่มขึ้นอีกแรง

         ซายน์ลากร่างแข็ง ๆ ของโฟร์ทวิ่งหลบไปอีกทาง  ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้พยายามมองหาพี่ชายฝาแฝด
ที่ขณะนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ในสนามรบตรงหน้าก็มีเพียงราฟาและเจย์   ทางที่เธอวิ่งหนีมาก็มีแต่ร่างโฟร์ทเท่านั้น
ที่ตามมา  แล้วนี่พี่ชายของเธอหายไปไหนเสียแล้ว

           “ดีวา~  วีเพอ~  เอ๊นด์~  มิชแชนด์~  แบ็ก~  เอมพลี่~”  สิ้นเสียงที่ออกคำสั่งแบบตะกุกตะกัก  ร่าง
เจ้างูยักษ์เหมือนจะหดตัวลงอย่างกะทันหันและหายไปในที่สุด  ราฟากับเจย์ได้แต่ยืนงง  ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จนกระทั่งเห็นแซนด์เดินมาจากมุมหนึ่งห่างออกไปจากพื้นที่ที่ใช้เป็นสนามรบและก็ห่างจากฝั่งที่ซายน์และโฟร์ท
ไปหลบอยู่  โดยที่มีร่างของชายศีรษะล้านเดินตามมาห่าง ๆ และเมื่อเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้นจึงเห็นว่า ร่างของชาย
ศรีษะล้านถูกมัดไว้ด้วยเวท “ไบน์โรฟ”   จนแทบจะกระดุกกระดิกไม่ได้

*********************************


        “เราจะเชื่อใจเขาได้แค่ไหน”

         “เอาน่า...เชื่อพี่ซิ  ไม่มีเจ้างูนั่นสักตัวเราสี่คนรับมือได้อยู่แล้ว”

         “แต่ซายน์ไม่ค่อยไว้ใจเขาเลย”

         “แต่เขาบอก เขารักษาอาการของโฟร์ทได้นะ ยังไงเราก็ต้องเสี่ยง”

          “ถึงแล้ว”  เสียงใหญ่ ๆ จากชายศรีษะล้านเอ่ยขึ้น  หลังจากเดินนำทุกคนออกจากทุ่งหญ้าที่ใช้เป็นสนาม
ต่อสู้เมื่อสักครู่ ตรงมายังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เป็นที่พักอาศัยของประชากรในเผ่าวิเพอรี่

         “อย่าเล่นตุกติกนะ  ไม่งั้นหมู่บ้านนี้เละแน่”  แซนด์ขู่   เมื่อเห็นว่าตรงหน้ามีเพียงกระท่อมที่สร้างด้วยไม้
แบบหยาบ ๆ เพียงแค่ไม่กี่หลัง

         “โธ่ ๆ พวกท่านก็ปล่อยข้าก่อนสิ  จะให้ข้าพาเข้าหมู่บ้านในสภาพแบบนี้หรือไง”

         แซนด์หันไปมองหน้าราฟา   ก่อนจะหันมาใช้เวท “แวนนิช”  ปล่อยตัวหัวหน้าเผ่าให้เป็นอิสระ เมื่อเห็น
ราฟาพยักหน้าเห็นด้วย  ทั้งหมดเดินตามหัวหน้าเผ่าเข้าสู่หมู่บ้านอย่างระมัดระวัง  บรรยากาศที่เงียบสงบกลับ
ทำให้รู้สึกอึดอัดมากเกินกว่าจะไว้วางใจ  เพราะตั้งแต่เดินผ่านบ้านหลังแรกจนไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังสุดท้าย
ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด กลับไม่เห็นคนของเผ่าวิเพอรี่คนอื่น ๆ เลย

         “นี่คือบ้านของข้า...เชิญพวกท่านเข้าไปพักก่อน”

         “แล้วท่านจะไปไหน”  ราฟาถามห้วน ๆ

         “โธ่ ๆ ข้าก็ต้องไปเตรียมยาที่จะนำมารักษาผู้หญิงคนนั้นนะซิ”

         “ข้าเตือนแล้วนะ  หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลล่ะก็...”  แซนด์เว้นวรรค ก่อนจะเน้นเสียงคำต่อไปว่า
“หมู่บ้านนี้พินาศแน่”  

*********************************


          “พี่แซนด์ คิดยังไงถึงไปจับตัวเจ้าหัวหน้าเผ่ามาอย่างนั้น”  ซายน์ถามขึ้นหลังจากทุกคนนั่งลงล้อมรอบ
โต๊ะกลมกลางห้องแล้ว

         “อ้าว...คนฉลาด มันก็ต้องทำอะไรที่ฉลาด ๆ แบบนี้แหละ”  พูดจบแซนด์ก็หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ 
แต่เมื่อเห็นว่าในกลุ่มไม่มีใครขำไปด้วย  เขาก็หยุดและเริ่มกลับมาพูดอย่างจริงจังขึ้น  “ก็ไม่มีอะไรหรอก  แค่รู้สึก
ว่าเจ้างูยักษ์นั่นมันทำอะไรตามคำสั่งที่ได้ยินจากเสียงประหลาด ๆ นั่น  ก็เลยคิดว่าถ้าจัดการกับคนออกคำสั่งได้ 
ก็คงจัดการกับเจ้างูนั่นได้เหมือนกัน แล้วก็โชคดีที่มันเป็นไปตามที่คิดไว้”

         “เพิ่งรู้ว่ามีพี่ชายฉลาดก็วันนี้เอง”  ซายน็กระเซ้าด้วยรอยยิ้ม  ก่อนจะสลดลงแล้วหันไปมองหน้าโฟร์ทที่ยังคง
นั่งนิ่งสีหน้าแววตาเหม่อลอย  “สงสารก็แต่โฟร์ท  คงจะตกใจมากจนช็อคไปเลย”

        “หวังว่าเจ้าหัวหน้าเผ่านั่น มันจะรักษาโฟร์ทได้อย่างที่พูดจริง ๆ “  เจย์เปรยเบา ๆ

         “ก็ลองทำไม่ได้อย่างที่พูดซิ  ข้าจะถล่มหมู่บ้านนี่ให้เรียบเลย”

          “ระวังกันหน่อย..” อยู่ ๆ ราฟาที่นั่งเงียบมานานก็เอ่ยขึ้น  “อย่าชะล่าใจกันนัก  เรายังไม่เห็นเลยนะว่าที่นี่
มีผู้คนมากน้อยเท่าใด และมีฝีมือขนาดไหน  คนที่รู้ข้อมูลดีที่สุดของพวกเราก็เป็นซะแบบนี้”  ราฟาหันไปมองทาง
โฟร์ท  “ฉะนั้น  ตราบใดที่เรายังอยู่ที่นี่ เรายังต้องระวังตัวทุกฝีก้าว”

          “ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก”  เสียงเคาะประตูขัดจังหวะการสนทนา  ก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วคนที่ก้าวเข้ามา
คนแรกก็คือชายศีรษะล้านหัวหน้าเผ่าคนเดิม  แต่ตอนนี้มีหญิงสาววัยกลางคนรูปร่างผอมบางถือถาดที่ทำจาก
เปลือกไม้เดินตามเข้ามาด้วย

         “นี่คือยาที่จะรักษาผู้หญิงคนนั้น”  ชายหัวหน้าเผ่าหันไปบอกกับราฟาซึ่งดูเป็นผู้นำของกลุ่ม จากนั้นหญิงสาว
ที่ตามเข้ามาด้วยก็วางถาดใส่ยาลงกลางโต๊ะ  ก่อนจะรีบกลับออกไป

          ราฟา  แซนด์ ซายน์ และเจย์ ชะโงกหน้ามองไปยังถ้วยไม้เล็ก ๆ กลางถาด  ถึงได้เห็นว่า  “ยา”  ที่หัวหน้าเผ่า
บอก คือ น้ำสีแดงขุ่น ๆ  ที่มีควันลอยออกมาให้เห็นเล็กน้อย

          “ให้ตายซิ  นี่ถ้าให้ซายน์กินเจ้ายาถ้วยนี้ ซายน์ต้องกลั้นใจตายก่อนแน่เลย”   ซายน์ใช้กระแสจิตบอกทั้ง
สามคน ก่อนหันไปทำหน้าเหยเกกับเจย์

         “มันไม่เป็นอันตรายแน่นะ”  แซนด์หันกลับไปถามอย่างเอาเรื่อง

         “โธ่ ๆ  ข้าไม่กล้าหลอกพวกท่านอยู่แล้ว   ฝีมือเก่งกาจกันซะขนาดนี้  ขืนทำอะไรลงไปได้ตายเปล่า ๆ”

         “รู้ตัวก็ดี”  แซนด์ตบท้าย

         “โธ่ ๆ อย่ามัวพูดกันอยู่เลย  รีบเอายานี่ให้ผู้หญิงคนนั้นดื่มเถอะ”

         แซนด์เป็นคนลุกขึ้นหยิบถ้วยยาไปป้อนให้โฟร์ท โดยมีสายตาลุ้นระทึกจากคนที่เหลือ (ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าเผ่า)
ทันทีที่ยาจากถ้วยไหลเข้าปากโฟร์ท  เธอกลับร้องกรี๊ดก่อนจะสลบไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน 
คนป้อนยารีบหันกลับมาขยุ้มคอเสื้อชายศีรษะล้านอย่างเอาเรื่อง

         “โธ่ ๆ  ใจเย็น ๆ ก่อนสิท่าน”

        “ใจเย็นหรอ เจ้ากล้าบอกให้ข้าใจเย็นทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนี้หรอ”  แซนด์ตะคอก

         “โธ่ ๆ ...”   ขณะที่หัวหน้าเผ่ากำลังจะหาทางออก   เสียงซายน์ตะโกนเรียกโฟร์ทก็ดังขึ้น เมื่อแซนด์หันกลับ
ไปมองก็เห็นว่าโฟร์ทลุกขึ้นนั่ง กำลังสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความมึนงง  ก่อนจะเงยหน้ามองทุกคนอย่างแปลกใจ

        “มีอะไรกันหรือคะ”

        “เอ่อ...โฟร์ท...โฟร์ทจำอะไรไม่ได้เลยหรอ”  ซายน์ถามเบา ๆ

        “มันก็... มันก็...ไม่รู้สิคะ  โฟร์ทจำได้แต่ว่าเราข้ามแม่น้ำเข้าอาณาเขตเผ่าวิเพอรี่กัน แล้วก็...แล้วก็หลับไป
ตื่นมาก็เห็นทุกคนล้อมวงกันอยู่แบบนี้  โฟร์ทตื่นสายหรอคะ...แหม...แย่จังเลย” คนพูดได้แต่หัวเราะเขิน ๆ

         “เฮ้อ...”  เสียงถอนใจพร้อม ๆ กันของราฟา  ซายน์  แซนด์ และเจย์

        “โธ่ ๆ  ข้าบอกแล้วก็ไม่เชื่อ  ว่ายานั่นไม่มีอันตรายก็ไม่เชื่อ”

        “ขอบใจท่านมาก”  ราฟาหันมากล่าวอย่างจริงใจ “ทีนี้  เรามีเรื่องจะถามท่านสักเล็กน้อย”

         และแล้วเรื่องราวตั้งแต่เคลอิ ครูเอล และไซเทรนมาปรากฏตัวที่หมู่บ้านจนถึงวันที่ทั้งหมดได้เผชิญหน้ากัน
ก็ถูกถ่ายทอดออกจากปากของชายศีรษะล้านจนหมดสิ้น ก่อนที่หัวเผ่าจะขอตัวออกไปหาอาหารมาให้แขกผู้เยือน

         “แล้วเราก็ต้องเสียผลึกแห่งแสงให้พวกมันไปอีกจนได้”  ซายน์ครวญเบา ๆ ก่อนจะซบหัวลงกับโต๊ะอย่าง
หมดแรง

        “เอาน่า...อย่างน้อยการออกมาของเราคราวนี้ก็ไม่เสียเที่ยวหรอกซายน์”  แซนด์ปลอบใจองสาว  “อย่าลืมซิว่า 
ผลึกที่ได้จากคุณรูปปั้นอาจเป็นหนึ่งในผลึกแห่งแสงก็ได้  ไว้เรากลับไปถามท่านผู้เฒ่าเอสโทสกัน  สดชื่นหน่อย 
เดี๋ยวก็ได้กินข้าวกันแล้ว”

        “แล้วตกลงไม่มีใครจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้โฟร์ทฟังหรอคะ”

        "เรื่องมันยาว  ค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านท่านผู้เฒ่าดีกว่า”   แซนด์ตัดบท

*********************************


         “น่าจะลองตรวจดูสักหน่อยนะ”

        “ใช่... ซายน์เห็นด้วยกับพี่เจย์”

        “ได้ เรื่องแค่นี้สบายมาก”
  
แซนด์ส่งกระแสจิตตอบ ก่อนจะแบมือร่ายเวท “คัมเพียร์” ปรากฏวัตถุทรงกรวย
สีขาวนวลขนาดเล็กตั้งอยู่บนฝ่ามือ

         “อะไรน่ะพี่แซนด์”  ซายน์ถาม

         “ใจกลางงาช้างไง  พี่เคยได้ยินมาว่าใจกลางงาช้างกอมโฟแธร์ มันตรวจหาพิษได้”

        “โธ่ ๆ  อาหารของข้าไม่มีพิษหรอก”  หัวหน้าเผ่าโอดครวญ

        “ถ้าไม่มีก็ไม่เห็นต้องกลัวข้าจะตรวจเลยนี่”  แซนด์พูดพลางก็ลงมือตรวจอาหารบนโต๊ะ โดยการใช้งาช้าง
จิ้มลงไปในอาหารก่อนจะดูว่างาช้างเปลี่ยนสีหรือไม่ ทีละจานจนครบทั้งสี่อย่าง “โอเค...ใช้ได้ปลอดภัย...
ลงมือกันเลย...”

        ผ่านไปไม่นานอาหารทุกอย่างบนโต๊ะก็หมดเกลี้ยง   ราฟาเป็นคนแรกที่ยกแก้วน้ำที่ทำจากเปลือกไม้ขึ้นดื่ม
ก่อนที่จะบ้วนทิ้งและปล่อยแก้วหล่นบนพื้น  “อย่า...ดื่ม...น้ำ...มัน...มี...พิษ”  ถ้อยคำตะกุกตะกัก ก่อนที่เขาจะ
หมดแรงล้มไปกองกับพื้น  ทั้งซายน์  แซนด์  เจย์และโฟร์ท รีบลุกขึ้นเข้ามาพยุงตัวเขาไว้  ก่อนที่พี่ชายฝาแฝด
จะโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี ตะโกนเรียกหาชายหัวหน้าเผ่าดังลั่น  ราฟาพยายามยกมือขึ้นห้ามอย่างอ่อนแรง ก่อนจะ
เอ่ยห้ามไว้และบอกให้ทุกคนระวังตัวให้ดี

        “แย่แล้วคะ...  พวกมันล้อมบ้านหลังนี้ไว้”   เสียงอุทานด้วยความตกใจของโฟร์ท ทำให้แซนด์และเจย์รีบ
ลุกขึ้นวิ่งไปเปิดประตูเพื่อดูเหตุการณ์ข้างนอกทันที  “โฟร์ทตั้งใจจะมาเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ แต่...แต่...
ดูซิคะ  พวกมันเต็มไปหมดเลย”

        “พวกเจ้าจะเอายังไง”  แซนด์ตะโกนถาม

        “โธ่ ๆ  พวกเจ้านี่มันดวงแข็งจริง ๆ  ผ่านเทพนากามาได้  ยังรอดจากพิษของข้าอีก”

        "ทำแบบนี้ทำไม  วางยาพิษพวกเราทำไม”  เป็นเจย์ที่เอ่ยขึ้นบ้าง

       “โธ่ ๆ เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็คิดไม่ออก  ข้าจะบอกให้ก็ได้  มันเป็นคำสั่งจากคนของท่านร็องดอร์ให้กำจัดพวกเจ้า
นะซิ  ถ้าเจ้า...”  ชายหัวล้าน หัวหน้าเผ่ายกมือชี้มาทางแซนด์ “ไม่มาขัดจังหวะข้าซะก่อน  ป่านนี้เทพนากาก็จัดการ
พวกเจ้าได้แล้ว  แต่ฝีมือของพวกเจ้าเท่าที่ข้าเห็น ก็ทำให้รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา  หากสู้กันซึ่ง ๆ หน้า พวกเราคงสู้ไม่ได้ 
แต่ถ้า....”

         “ก็เลยตั้งใจจะวางยาพิษพวกเราอย่างนั้นซิ   แล้วช่วยข้าไว้ทำไม”  โฟร์ทชิงพูดขึ้นก่อน

        “โธ่ ๆ สาวน้อย...  ก็เพื่อให้พวกเจ้าตายใจนะซิ   แต่พวกเจ้าก็ยังสามารถรอดมาได้   เอ๊ะ.!..  แล้วอีกสองคนละ 
หรือว่า...  ฮึ..ฮึ...สองคนนั่นคงโดนพิษสลายพลังเข้าแล้วละซิ ก็ยังดีอย่างน้อยก็เหลือพวกเจ้าแค่สามคน”

        “แต่ข้าว่าเจ้าคิดผิดซะแล้วละ ที่ทำแบบนี้”  น้ำเสียงดุดันของซายน์ดังขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเห็นเธอพยุงราฟา
ออกมา  ใบหน้างดงามดูนิ่งเฉยมีแต่แววตาที่เปล่งประกายฉายแววคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ “พวกเจ้าจะได้รับ
การตอบแทนที่สาสมกับการกระทำครั้งนี้”

        บรรดาคนของเผ่าวิเพอรี่ได้แต่ตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า  เมื่อร่างของซายน์เปล่งประกายแสงสีม่วง
แวบเดียวก่อนจะจางหายไป  และแล้วสาวน้อยที่ดูธรรมดาในตอนแรก  กลับดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างยิ่ง 
หลายคนขยับถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว  จนกระทั่งมีเสียงหัวหน้าเผ่าดังขึ้นในความเงียบ ให้เริ่มโจมตี  ชายหลายคน
ในแถวหน้าซึ่งในมือถือไม้ยาวที่มีปลายแหลมสีแดงวิ่งกรูเข้าไปหากลุ่มของซายน์   แต่ไม่ทันที่ใครจะเข้าถึงตัว
ของฝ่ายตรงข้าม  ทั้งหมดก็กระเด็นกลับไปที่เดิมของตัวเองด้วยเวทของเจย์  ถึงกระนั้นการโจมตีก็ยังไม่สิ้นสุด
เมื่อคนต่อ ๆ ไปต่างทยอยบุกโจมตีเข้ามาเรื่อย ๆ  แต่ละคนมีอาวุธในมือแตกต่างกันออกไป  แต่ในส่วนที่เหมือนกัน
คือส่วนสัมผัสที่เป็นคมของอาวุธทุกชิ้นเป็นสีแดงทั้งหมด  เสียงแผ่ว ๆ ของราฟาเตือนให้ระวังพิษจากส่วนของอาวุธ
ที่เป็นสีแดงนั้น  โฟร์ทมาทำหน้าที่พยุงและดูแลราฟาไว้ซึ่งไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้เพราะขณะนี้แรงจะยืนยังแทบจะ
ไม่มีหน้าที่รับมือคนของเผ่าวิเพอรี่จึงตกเป็นของซายน์  แซนด์และเจย์ โดยปริยาย

         การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด   อาจเพราะความปราณีของพวกเขาที่ใช้เวทที่ไม่รุนแรงนักเพราะไม่ต้องการ
ฆ่ากันให้ถึงแก่ชีวิต  ความประสงค์ของทั้งสามแค่ต้องการให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น  แต่มันกลับส่งผลร้าย
เพราะถึงแม้คนของเผ่าวิเพอรี่จะไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษ  แต่พวกเขามีกำลังและความอดทน ทำให้การต่อสู้กินเวลา
ยาวนาน  ยิ่งสู้กันนานเท่าไหร่ความมั่นใจในความสามารถ ความมั่นใจในการใช้เวทของซายน์  แซนด์และเจย์ก็
เพิ่มขึ้นแต่ความเหนื่อยอ่อนก็มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งสวนทางกับพละกำลังที่เริ่มลดลง  ราฟาต้องสั่งให้โฟร์ทตะโกน
บอกทั้งสามคนจัดการขั้นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นการต่อสู้ก็จะยืดเยื้อต่อไป และฝ่ายที่จะแย่ก็คือพวกเรา ทั้งสามจึง
จำใจต้องใช้เวทที่รุนแรงขึ้นจนทำให้คนของเผ่าวิเพอรี่เริ่มทยอยล้มตายไปบางส่วน

         “ยอมแพ้แล้วปล่อยพวกเราไปซะเถอะ   อย่าให้มีคนล้มตายไปมากกว่านี้เลย”  ซายน์เจรจา

         “โธ่ ๆ  สาวน้อย...  คงไม่ได้หรอก  เรารับคำสั่งมาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด  วันนี้คงต้องมีฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งที่ต้องเป็นผู้จากไป”

         “แต่ข้าไม่อยากฆ่าคน  พอเถอะ  ให้มันสิ้นสุดแค่นี้  ถึงยังไงพวกท่านก็สู้พวกเราไม่ได้หรอก”

         “ราชินีน้อย ... ระวัง~~~!”    เสียงเตือนของราฟาดังขึ้น เมื่อผู้ถูกเตือนมัวแต่เจรจาพูดคุยโดยไม่ระวังตัว 
ไม่ทันเห็นว่าหญิงสาววัยกลางคนที่เคยถือถาดยามาให้โฟร์ท  กำลังสาดน้ำในแก้วใบหนึ่งเข้าใส่เธอ   แต่ราฟา
ใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายถลันเข้ามาขวางหน้าหญิงที่เขาเรียกว่าราชินีน้อยไว้  ทำให้น้ำสาดโดนหน้าเขาเข้าเต็ม ๆ  
มันแสบร้อนจนเขาต้องเอามือกุมปิดตาไว้

         “ราฟา~~~!” 

***************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น