นี่แหละฉัน

รูปภาพของฉัน
Thailand
"ตัวฉัน คนอย่างตัวฉัน ใครจะมาสนใจ..." อิอิ.. รักเสียงเพลง บรรเลงตัวหนังสือ... ชอบอ่าน ชอบเขียน......
"หนังสือ" คือเพื่อนที่ปรารถนาดีที่สุด แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดนะ... เพราะในชีวิตยังมีเพื่อนดี ๆ ให้เจออีกเยอะ

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตอนที่ 25 กองกำลังเอสทรูฟ

 

 

          หลังจากพากันนั่งเงียบ ๆ ในโฮนี่สองคันจนกลับมาถึงปราสาทแก้ว  ความเห็นของคนทั้งห้าก็ต้องแตกออก
เป็นสองฝ่าย เมื่อซายน์  แซนด์และโฟร์ทดึงดันไม่อยากทำตามความต้องการขององครักษ์ส่วนตัวและภรรยา ที่
ต้องการให้ทั้งสามคนเข้าไปรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้มีอำนาจสูงสุดของเฮเวนน่าในขณะนี้อย่างท่านหญิงซีเวียร์ฟัง 
เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนักและตอนนี้ทุกคนก็ปลอดภัยดีแล้ว  แต่อีกฝ่ายถึงแม้จะมีจำนวนคนน้อยกว่า
ก็ได้ให้เหตุผลที่เหมาะสมว่า ถึงอย่างไรก็ต้องไป เพราะเชื่อว่าป่านนี้ท่านหญิงซีเวียร์คงจะได้รับรายงานเหตุที่เกิดขึ้น
แล้ว ฉะนั้นการไปแจ้งข่าวด้วยตนเองจะเป็นการให้เกียรตินาง  และที่สำคัญกว่านั้นคือต้องไปเพื่อแจ้งข่าวการสูญเสีย
ทหารองครักษ์ทั้งสองนายเพื่อแสดงความรับผิดชอบ จะได้มีการช่วยเหลือครอบครัวของทั้งสองนายต่อไป อย่างน้อย
ก็เป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณต่อทหารทั้งคู่ที่ต้องเสียสละชีวิตไปในเหตุการณ์ครั้งนี้  และนั่นทำให้ซายน์
รู้สึกเสียใจยิ่งนักที่ตนเองเป็นตัวการในเรื่องนี้แท้ ๆ กลับทำเหมือนจะปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านเลยไปเหมือนไม่มี
อะไรเกิดขึ้น

          “ซายน์จะเข้าไปพบท่านป้าเองค่ะ”

          “ไม่...ซายน์.. ต้องเป็นพวกเราทั้งหมด  ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง”  เสียงนุ่ม ๆ ของพี่ชายเรียกความมั่นใจให้เธอ
ได้เป็นอย่างดี

****************************


           แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่องครักษ์ส่วนตัวอย่างเท็นซินคิด    ท่านป้าของเธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้ว 
เพียงแต่ซักถามรายละเอียดอะไรอีกเล็กน้อยซึ่งเธอก็เล่าให้ฟังนางฟังเหมือนกับที่เล่าให้คนอื่น ๆ ฟังในที่เกิดเหตุ 
มีเพียงเรื่องเดียวที่เธอยังไม่ได้เล่าให้ใครรับรู้สักคนเดียวคือการสนทนาของเธอกับหญิงชราที่แปลกประหลาด
ท่ามกลางลมพายุอันรุนแรง  เธอบอกทุกคนแค่เพียงว่าระหว่างที่ไปเลือกซื้อผลไม้  เธอเห็นหญิงชราที่น่าสงสาร
คนหนึ่งบนถนนหมายเลขสี่จึงตามไป  เผื่อหญิงชราคนนั้นอาจต้องการความช่วยเหลือ  แต่ทันทีที่เข้าไปในตรอก
เล็ก ๆ แห่งนั้น  พวกชายชุดดำก็เข้ามาจู่โจมเพื่อจะจับตัวเธอไป  จึงเกิดการต่อสู้กันเล็กน้อยก่อนที่ตัวเธอจะมี
เกราะสีเงินขึ้นมาคุ้มกัน  และระหว่างนั้นเองทหารองครักษ์สองนายนั่นก็ผ่านมาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี  ทั้งสองคน
พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องเธอแต่ก็ต้องพ่ายแพ้และจบชีวิตลง  จนกระทั่งพี่ชายฝาแฝดติดต่อผ่านกระแสจิตมา 
และตามมาช่วยเธอไว้ได้ในที่สุด

          จากเหตุการณ์ครั้งนี้  ทำให้ซายน์ถูกสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ออกไปนอกปราสาทแก้วอีก   เธอพยายามอ้อนวอน
และสัญญาต่าง ๆ นานา ว่าจะไม่อยู่ตามลำพังคนเดียวอีกแล้ว  หรือแม้กระทั่งจะให้องครักษ์ที่เก่งกล้าสามารถอย่าง
เท็นซินตามไปด้วยทุกครั้ง  แต่คำขอของเธอก็ไม่เป็นผล  ท่านป้าไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้ว

          ท่านหญิงซีเวียร์พยายามชี้ให้เห็นถึงอันตรายที่ซายน์เพิ่งรอดมาได้อย่างหวุดหวิด  การต่อกรกับพวกเอสทรูฟ
เป็นเรื่องที่น่าหวั่นเกรง  ซายน์ได้รับความกระจ่างเพิ่มว่า  “เอสทรูฟ”  ในปัจจุบันนี้คือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  และ
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าพวกมันทำงานให้ใคร  มีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และมีวัตถุประสงค์อันใด  

          แต่หากพูดถึงกองกำลัง  “เอสทรูฟ”  ในอดีตก่อนจะเกิดเหตุการณ์เมื่อสิบหกปีก่อนขึ้น เอสทรูฟก็คือหน่วย
ปฏิบัติภารกิจลับของราชินีเซ็นย่า  สืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งที่ท่านจะเข้าพิธีรับตำแหน่งราชินีของเฮเวนน่า 
ท่านหญิงเซ็นย่า  (ยศในขณะนั้น)  มีอายุเพียงสิบห้าปี  ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากบางฝ่ายที่เห็นควรว่าตำแหน่ง
ราชินีของเฮเวนน่า เหมาะที่จะเป็นของท่านหญิงเซ็นเน่  ซึ่งเป็นพี่สาวของท่านมากกว่า  ไม่สมควรที่น้องจะขึ้นมา
เป็นใหญ่เหนือกว่าพี่  แต่องค์ราชินีในขณะนั้นกลับยืนยันที่จะมอบตำแหน่งราชินีคนต่อไปให้กับท่านหญิงเซ็นย่า
โดยให้เหตุผลเพียงแค่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้ว  ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจึงจำต้องยอมรับในคำสั่งนี้

          แต่ทุกอย่างกลับไม่เรียบง่ายอย่างที่คิดไว้  เพราะเมื่อองค์ราชินีสิ้นชีพลงและท่านหญิงเซ็นย่าขึ้นรับรับ
ตำแหน่งเป็นราชินีได้ไม่นาน  ท่านหญิงเซ็นเน่ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ  เหล่าข้าราชบริพารพวกที่เคยคัดค้านเริ่ม
กระด้างกระเดื่อง  กล่าวหาว่าราชินีเซ็นย่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปในครั้งนี้ ต่างพยายามยุยงชาวเมืองให้
แตกแยกจนมีความคิดเห็นออกเป็นสองฝ่าย  พวกหนึ่งต่างก็ยอมรับและเห็นด้วยในการตัดสินใจของอดีตราชินี
และเชื่อมั่นว่าราชินีเซ็นย่า ราชินีองค์ใหม่แห่งเฮเวนน่าเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ไม่มีวันทำร้ายพี่สาวแท้ ๆ ของตนเอง
ได้แน่นอน  แต่อีกพวกหนึ่งกลับไม่เห็นด้วยเช่นนั้น  พากันคิดไปว่าเรื่องของอำนาจไม่เข้าใครออกใคร  เป็นสิ่งยาก
ที่จะหักห้ามใจ  เมื่อได้ลิ้มรสแล้วก็ยากที่จะยอมวางมือ จึงต้องชิงกำจัดผู้ที่เห็นว่าน่าจะเป็นหอกข้างแคร่   ผู้ที่จะเป็น
ศัตรูที่น่ากลัวในอนาคตให้สิ้นไป

          เพราะฉะนั้นบ้านเมืองในขณะนั้น  จึงคุกรุ่นไปด้วยความบาดหมางไม่เข้าใจกัน  มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทของ
ทั้งสองฝ่ายมากบ้างน้อยบ้าง จนบางครั้งหวุดหวิดที่จะเป็นการจลาจลย่อย ๆ เลยทีเดียว ราชินีเซ็นย่าได้แต่เฝ้ามอง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นกังวล แต่จะให้ลงไปจัดการอะไรขั้นเด็ดขาดก็คงดูจะไม่งามนัก ในเมื่อเรื่องนี้
นับว่ามีต้นเหตุมาจากตนเอง

          แล้วทางออกก็ได้รับการเสนอแนะจากท่านผู้เฒ่าเอสโทส  ผู้หยั่งรู้ซึ่งทรงอำนาจ  คนสนิทของอดีตราชินีที่
สิ้นชีพไป  ท่านแนะนำให้ราชินีเซ็นย่าจัดตั้งกองกำลังขึ้นมาอย่างลับ ๆ เพื่อสืบหาร่องรอยการหายตัวไปของท่านหญิง
เซ็นเน่   และอีกส่วนหนึ่งเพื่อจัดการเหตุการณ์วุ่นวายต่าง ๆ ของชาวเมือง ให้กองกำลังนี้เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีที่มาที่ไป 
เป็นกลุ่มคนที่เป็นเสมือนคนกลางเพื่อประสานรอยร้าวของกันและกัน ไม่ใช้ความรุนแรงของทหาร  ไม่ให้อำนาจผู้ใด
ผู้หนึ่งในการจัดการ  เพราะอาจทำให้ดูเป็นการลำเอียงหรือเป็นการปกปิดความผิดของตนเอง

          และเพื่อต้องการให้เรื่องนี้เป็นความลับมากที่สุด  ผู้ที่รับรู้เรื่องการมีอยู่ของกองกำลังเอสทรูฟ จึงมีเพียงราชินี
เซ็นย่า  ท่านผู้เฒ่าเอสโทส  หัวหน้าองครักษ์  และผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้าเพียงสี่คนเท่านั้น  สำหรับหัวหน้า
องครักษ์นั้นว่ากันว่าเป็นชายหนุ่มรูปงาม ที่มีฝีมือดีพอควร  และยังเป็นคนที่ราชินีเซ็นย่าให้ความเชื่อมั่นไม่น้อยไป
กว่าผู้หยั่งรู้แห่งเฮเวนน่าเลย   ในส่วนของผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้าที่ได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในสี่ผู้กุมความลับ 
เพราะต้องเป็นผู้คัดสรรเหล่าทหารองครักษ์ที่เหมาะสมเพื่อมาปฏิบัติภารกิจสำคัญครั้งนี้  องครักษ์ที่คล่องแคล่ว
ปราดเปรียวว่องไว  องครักษ์ที่มีความเชื่อมั่นในตัวราชินีเซ็นย่าและบัลลังก์แห่งเฮเวนน่า  องครักษ์ที่สามารถจะเก็บ
ความลับไว้และไม่แพร่งพรายออกไป  และต้องเป็นองครักษ์ที่จะยอมเสียสละตำแหน่งในปราสาทแก้ว เพื่อไปเป็น
กองกำลังที่ไร้การรับรอง

          กว่ายี่สิบชีวิตที่ผ่านการคัดสรรมา  สามารถปฏิบัติภารกิจลับได้เป็นที่น่าพอใจ  จนอาจจะเรียกได้ว่าดีเกิน
ความคาดหมาย  เมื่อส่วนหนึ่งสามารถประสานรอยร้าวของชาวเมืองได้ ถึงแม้จะไม่กลับมาเหมือนเดิมซะทีเดียว
แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใด ๆ อีก   ยังคงเหลืออีกเพียงหนึ่งภารกิจที่ราชินีเซ็นย่ากำลังรอข่าวความคืบหน้า
อย่างใจจดใจจ่อ   โดยข่าวหลังสุดที่ได้รับมาคือ มีความเป็นไปได้ว่าขณะนี้ท่านหญิงเซ็นเน่ น่าจะอาศัยอยู่ใน
แลนด์เดียร์ว่า

          เกือบเดือนผ่านไป  กองกำลังเอสทรูฟส่วนที่ติดตามข่าวที่แลนด์เดียร์ว่าก็กลับมา  พร้อมม้วนกระดาษ
สีน้ำตาลม้วนเล็ก ๆ ม้วนหนึ่ง ที่คลี่คลายสถานการณ์ทุกอย่างให้กลับสู่ภาวะปกติ

          สารจากท่านหญิงเซ็นเน่  เพื่อขอสละฐานันดรศักดิ์และต้องการอยู่อย่างสงบ  ได้รับการปิดประกาศให้ชาวเมือง
ทราบโดยทั่วกัน และนั่นก็ทำให้กองกำลังเอสทรูฟถูกยกเลิกเมื่อจุดประสงค์หลักของการก่อตั้งได้เสร็จสิ้นลง   เรียก
ได้ว่าสิ้นสุดลงทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเคยมี  อดีตองครักษ์ทุกนายได้รับรางวัลจากราชทรัพย์ส่วนตัวของราชินีเซ็นย่า 
พร้อมทั้งได้กลับมาประจำการใหม่และเลื่อนตำแหน่งขึ้นอีกคนละขั้นโดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ จากเหล่าองครักษ์
หน่วยอื่น ๆ เมื่อผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้า ได้ออกหน้ารับรองว่าเป็นผู้ส่งเหล่าองครักษ์เหล่านี้ไปปฏิบัติภารกิจ
สำคัญเร่งด่วนด้วยตนเอง

           แต่เรื่องกลับไม่จบไปง่าย ๆ เหมือนอย่างที่คิด  เมื่อผู้บัญชากองกำลังส่วนหน้ามองเห็นถึงศักยภาพ  ความ
ทะเยอทะยาน  และอะไรบางสิ่งบางอย่างในตัวอดีตผู้ร่วมงานในกองกำลังเอสทรูฟบางคน   การหาประโยชน์ให้กับ
ตนเองจึงเริ่มขึ้น  กองกำลังเอสทรูฟถูกตั้งขึ้นมาอย่างลับ ๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

          กองกำลังเอสทรูฟชุดใหม่  เริ่มออกอาละวาดประหนึ่งกองโจร  เป้าหมายหลักของการข่มขู่ปล้นชิงครั้งนี้คือ
หมู่บ้านต่าง ๆ ในแลนด์เดียร์ว่า ซึ่งขณะนั้นยังไม่ถูกยึดอำนาจโดยร็องดอร์และต้องแยกเป็นเผ่า ๆ เหมือนในปัจจุบัน  
เกือบทุกวันจะต้องมีข้อร้องเรียนไปยังราชาฟีเบลเรื่องการถูกปล้นชิงทรัพย์ รวมถึงพืชพันธุ์ธัญญาหาร   นานวันเข้า
เหตุการณ์ต่าง ๆ  ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  จากการปล้นชิงธรรมดา เริ่มมีผู้เสียชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ  ที่สำคัญ
กองทหารของแลนด์เดียร์ว่า  ก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ใช้เวทได้ จนเมื่อเหตุการณ์เริ่มเกินกว่าจะรับมือไหว 
ราฟาฟีเบลจึงต้องเดินทางไปขอความร่วมมือจากราชินีเซ็นย่าด้วยตนเอง

          ทันทีที่ได้รับฟังความจากราชาแห่งแลนด์เดียร์ว่า  เล่าถึงถึงกองโจรที่อาจหาญปล้นฆ่าชาวเมืองอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ทหารของแลนด์เดียร์ว่าไม่สามารถจะจัดการอะไรได้เลย  เกินกำลังยิ่งนักที่คนธรรมดาจะสู้กับผู้ใช้เวท  จึงต้อง
มาขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้เวทเช่นเดียวกันในการจับกุม แต่สิ่งที่ทำให้ราชินีของเฮเวนน่าถึงกับตกอกตกใจจน
เกือบเก็บอาการไม่อยู่นั้น  ก็เมื่อได้รับฟังว่ากองโจรเหล่านั้นเรียกตัวเองว่า  “กองกำลังเอสทรูฟ”

          การสืบสวนเริ่มต้นจากการประชุมของผู้เคยรับรู้การมีอยู่ของกองกำลังปฏิบัติภารกิจลับทั้งสี่คน  เพื่อหาว่า
เหตุใดชื่อกองกำลังในการปฏิบัติงานครั้งนั้นถึงได้มีคนรับรู้และนำไปใช้  และแล้วก็สรุปได้ว่าคงเกิดจากการทรยศ
ขององครักษ์คนใดคนหนึ่ง  จึงเป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้าในการสืบหาบุคคลผู้นั้น  และเป็นหน้าที่
ของหัวหน้าองครักษ์ในการนำเหล่าผู้มีฝีมือออกติดตามและจับกุมเหล่ากองโจรที่นำความเสื่อมเสียมายังผู้ใช้เวททั้งปวง

          งานที่เคยคิดว่าไม่น่าจะยุ่งยาก  กลับทำความลำบากใจให้กับหัวหน้าองครักษ์อย่างนึกไม่ถึง  เมื่อเหล่ากองโจร
เหมือนจะรู้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายผู้ติดตามอยู่ตลอด  สามารถหลบหนี และทำลายหลักฐานต่าง ๆ ไปได้ทุกครั้ง 
จากที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน  เวลากลับเนิ่นนานขึ้นจากเดือนเป็นสองเดือน  สามเดือน  สี่เดือน จนล่วงเลย
มาเกือบปี  จนในที่สุดหัวหน้าองครักษ์รูปงามก็ต้องปล่อยข่าวลวงเพื่อต้องการหาตัวไส้ศึกที่คอยส่งข่าวคราวความ
เคลื่อนไหวของทีมติดตามไปให้กองโจรรับรู้  ไม่นานเท่าไรนักผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้า
ก็ถูกเผยโฉม

          การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่ออดีตผู้บัญชาการกองกำลังส่วนหน้าซึ่งขณะนี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว 
ไม่ยอมที่จะต้องถูกจับกุมและคุมขังอยู่ในคุกมืดใต้ดินตลอดชีวิต  รวบรวมกำลังคนที่ตนเองพอจะบงการได้ทั้งจาก
เมื่อครั้งยังคงซึ่งอำนาจ  และจากการใช้ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่อย่างมากมายจากการปล้นชิงมาเป็นสิ่งล่อใจชักจูงคนที่
ต้องการเป็นใหญ่มาร่วมกระบวนการเพื่อจะโค่นล้มบัลลังก์ขององค์ราชินีและจะขึ้นครอบครองบัลลังก์เสียเอง

          การต่อสู้ประดุจศึกสายเลือดผ่านไปสามวันสามคืน  ก่อนจะจบลงด้วยความสูญเสียทั้งสองฝ่าย  ผู้ทรยศอย่าง
อดีตผู้บัญชากองกำลังส่วนหน้าหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนพวกลิ่วล้อบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือ
ก็หลบหนีกระจัดกระจายย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากในแลนด์เดียร์ว่า แต่หากเปรียบเทียบไปทางฝ่ายกองกำลังของ
เฮเวนน่าต้องเรียกว่าสูญเสียมากกว่า เมื่อหัวหน้าองครักษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้และเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้นโดย
มีราชินีเซ็นย่าคอยดูแลอย่างใกล้ชิดจวบจนลมหายใจสุดท้าย....


****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น